Apple Music คือบริการสตรีมมิ่งที่ให้คุณฟังเพลงได้กว่า 85 ล้านเพลง และยังมาพร้อมคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การดาวน์โหลดแทร็คโปรดและฟังแบบออฟไลน์เนื้อเพลงแบบเรียลไทม์ การฟังบนอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้ที่คุณชอบ เพลงใหม่ที่เลือกมา ให้คุณโดยเฉพาะ ตลอดจนเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยบรรณาธิการของเรา และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีคอนเทนต์สุดพิเศษและคอนเทนต์ต้นฉบับอีกด้วย
Apple Music นั้นมีอยู่แล้วบน iPhone, iPad, Apple Watch, Apple TV และ Mac ของคุณ และคุณสามารถฟังด้วย CarPlay หรือฟังแบบออนไลน์ทาง music.apple.com/th ก็ได้ นอกจากนี้ Apple Music ยังมีให้บริการทั้งบนอุปกรณ์ Windows, Android และอื่นๆ อีกด้วย1
ขึ้นอยู่กับข้อเสนอที่คุณเลือก (1) นักศึกษาสามารถเลือก Apple Music แบบนักศึกษาในราคา ฿69 ต่อเดือน (2) สมัครสมาชิกรายเดือนแบบบุคคลในราคาเพียง ฿129 ต่อเดือน หลังหมดช่วงทดลองใช้ฟรี 3 เดือน (3) Apple Music แบบครอบครัวให้คุณแชร์บัญชีของคุณกับคนอื่นๆ ได้สูงสุด 5 คน โดยที่สมาชิกแต่ละคนจะมีบัญชีเป็นของตัวเอง ในราคาเพียง ฿199 ต่อเดือน (4) แผนบริการ Apple Music แบบบุคคลทั่วไป และแผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวมีอยู่ใน Apple One ซึ่งเป็นการรวมบริการอื่นๆ ของ Apple สูงสุด 3 บริการเข้าเป็นหนึ่งการสมัครสมาชิกรายเดือน แผนบริการ Apple One เริ่มต้นที่ ฿225 ต่อเดือน
สมาชิก Apple Music ทุกคนที่ใช้ Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac และ Apple TV สามารถใช้หูฟังใดก็ได้ เพื่อฟังเพลงหลายพันแทร็คที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยเมื่อคุณฟังด้วยหูฟัง Apple หรือ Beats ที่ใช้งานร่วมกันได้ เพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos ก็จะเล่นในแบบ Dolby Atmos โดยอัตโนมัติ สำหรับหูฟังอื่นๆ ให้ไปที่ "การตั้งค่า > เพลง > เสียง" แล้วตั้งค่า Dolby Atmos เป็น "เปิดตลอด" นอกจากนี้คุณยังสามารถฟังเพลงที่มาพร้อม Dolby Atmos โดยใช้ลำโพงในตัวของ iPhone, iPad, MacBook Pro, MacBook Air หรือ iMac รุ่นที่ใช้งานร่วมกันได้ หรือโดยการเชื่อมต่อ Apple TV 4K กับอุปกรณ์ชนิดใดชนิดหนึ่งดังต่อไปนี้ ได้แก่ ซาวด์บาร์ที่ใช้งานร่วมกับ Dolby Atmos ได้, เครื่องรับสัญญาณ AV ที่รองรับ Dolby Atmos หรือโทรทัศน์ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ดูรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้คุณสมบัตินี้ได้ ได้ที่ https://support.apple.com/th-th/HT212182
การบีบอัดเสียงแบบ Lossless เป็นการลดขนาดไฟล์เพลงต้นฉบับโดยที่ยังเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน และ Apple Music ก็กำลังทำให้เพลงทั้งหมดในแค็ตตาล็อกที่มีกว่า 90 ล้านเพลงมีในเสียงแบบ Lossless ในความละเอียดที่แตกต่างกัน2 โดยใน Apple Music นั้น "Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดสูงสุด 48kHz ในขณะที่ "Hi‑Res Lossless" หมายถึงเสียงแบบ Lossless ที่มีความละเอียดตั้งแต่ 48kHz ถึง 192kHz อย่างไรก็ตาม ไฟล์ Lossless และ Hi-Res Lossless มีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งยังใช้แบนด์วิดท์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงกว่าไฟล์ AAC แบบมาตรฐานมาก
คุณสามารถฟังเสียงแบบ Lossless ได้โดยใช้แอป Apple Music เวอร์ชั่นล่าสุดบน iPhone, iPad, Mac หรือ Apple TV เพียงแค่เปิดใช้งานเสียงแบบ Lossless ใน "การตั้งค่า > เพลง > คุณภาพเสียง" ซึ่งคุณสามารถเลือกระหว่าง Lossless และ Hi-Res Lossless สำหรับการเชื่อมต่อระบบเซลลูลาร์หรือ Wi‑Fi แต่ทั้งนี้ Hi-Res Lossless จะต้องใช้กับอุปกรณ์ภายนอก อย่างตัวแปลงสัญญาณดิจิทัลเป็นอนาล็อกแบบ USB
ได้ แผนบริการ Apple Music แบบครอบครัวให้คุณใช้งานร่วมกับสมาชิกได้สูงสุด 6 คน โดยที่ทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับคุณสมบัติเต็มรูปแบบและแค็ตตาล็อกทั้งหมดของ Apple Music หากต้องการเริ่มใช้งาน เพียงตั้งค่า "การแชร์กันในครอบครัว" บนอุปกรณ์ iOS หรือ iPadOS, โทรศัพท์ Android หรือ Mac ของคุณ แล้วเชิญสมาชิกในครอบครัวมาเข้าร่วมได้เลย
นักศึกษาสามารถเข้าถึงคุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของ Apple Music ได้เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้แผนบริการแบบบุคคล เมื่อคุณได้รับการยืนยันสถานะนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับสิทธิ์ให้ใช้ราคาสมาชิกแบบนักศึกษาเป็นเวลาสูงสุด 4 ปี ตราบใดที่คุณยังเป็นนักศึกษาอยู่ และเมื่อครบ 4 ปี การสมัครสมาชิกของคุณจะดำเนินต่อในราคาสมาชิกแบบบุคคล
Apple Music ไม่มีโฆษณา
คลัง iTunes ของคุณก็ยังเป็นของคุณอยู่ คุณสามารถเข้าถึงคอลเลกชั่นทั้งหมดของตัวเองได้จาก Apple Music หรือจาก iTunes บน macOS หรือ Windows
สมาชิกใหม่สามารถใช้ Apple Music ได้ฟรีนาน 6 เดือน เมื่อซื้ออุปกรณ์ด้านเสียงที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ ตรวจดูให้แน่ใจว่า iPhone หรือ iPad ของคุณใช้ iOS หรือ iPadOS เวอร์ชั่นล่าสุดอยู่ จากนั้น คุณจะสามารถรับสิทธิ์ทดลองใช้ Apple Music ได้ หลังจากที่คุณจับคู่อุปกรณ์ด้านเสียงกับ iPhone หรือ iPad ของคุณแล้ว โดยคุณมีระยะเวลา3 เดือนในการรับสิทธิ์หลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ครั้งแรก◊
ร่วมงานกับ Apple Music
Apple Music สนับสนุนศิลปินด้วยเครื่องมือสำหรับการสร้างสรรค์ เผยแพร่ และวัดผลเพลง บนเวทีระดับโลก แล้วยังมีอีกหลากหลายวิธีในการโชว์ผลงานบน Apple Music ไม่ว่าจะเป็น MusicKit, ฟีด RSS, วิดเจ็ต, แนวทางสำหรับแบรนด์, ป้ายกำกับและอื่นๆ