ภาพรวม
เรียนรู้เกี่ยวกับเกณฑ์ชี้วัดหลักๆ ในภาพรวม Facebook Analytics
ทั่วไป
ในส่วน "บุคคล" คุณสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้ไม่เกิน 28 วันเท่านั้น
เมื่อคุณกรองตามช่วงวันที่ คุณจะเห็นข้อมูลจากช่วงเวลาที่ระบุเท่านั้น โดยดูข้อมูลย้อนหลังได้สูงสุด 2 ปี
วิธีกรองตามช่วงวันที่ใน Facebook Analytics บนเว็บ
- ไปที่ส่วน Facebook Analytics ที่มีข้อมูลซึ่งคุณต้องการกรอง (เช่น ผู้ใช้ที่กำลังใช้งาน
สำหรับ "กราฟทรงกรวย", "กลุ่มผู้ใช้" และ "ข้อมูลแยกย่อย" คุณจำเป็นต้องดูกราฟทรงกรวย กลุ่มผู้ใช้ หรือข้อมูลแยกย่อยที่ต้องการเท่านั้น
- คลิกเมนูดร็อปดาวน์แรกที่อยู่มุมซ้ายบน เมนูนี้จะแสดงช่วงวันที่ที่คุณดูอยู่ในขณะนั้น (เช่น 28 วันที่ผ่านมา)
- เลือกเหตุการณ์วันที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้าที่มีให้ หรือกำหนดวันที่เองได้สูงสุด 2 ปี
- เลือก “อัพเดต”
ตอนนี้การวิเคราะห์ที่คุณดูจะถูกกรองตามช่วงวันที่ที่คุณเลือก
ผู้ใช้ที่กำลังใช้งานคือจำนวนผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันที่ใช้ที่มาของเหตุการณ์ของคุณ (เช่น แอพ เว็บไซต์ บอทของ Messenger) หากไม่สามารถระบุผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันได้ ระบบจะคำนวณจากอุปกรณ์ที่ไม่ซ้ำกันหรือคุกกี้แทน ผู้ใช้อาจดำเนินการต่างๆ ซึ่ง Facebook Analytics จะบันทึกการกระทำนั้นว่าเป็นเหตุการณ์
ผู้ใช้ที่กำลังใช้งาน
ในแต่ละช่องทาง ผู้ใช้จะต้องทำเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งดังต่อไปนี้ให้เสร็จสมบูรณ์จึงจะถือว่าเป็นผู้ใช้ที่กำลังใช้งานในช่วงเวลาที่กำหนด:
ที่มาของเหตุการณ์ | ช่องทาง | เหตุการณ์ |
---|---|---|
แอพ | Android, iOS | เปิดใช้แอพและเมธอด |
แอพ | เว็บ (Facebook SDK สำหรับ JavaScript) | ดูหน้าเว็บบนเว็บไซต์และ |
แอพ | บอทของ Messenger | ส่งข้อความไปยังบอทของ Messenger ของคุณหรือคลิกปุ่มในข้อความ |
แอพ | เกมบน Facebook | เปิดใช้แอพในเกมบน Facebook |
พิกเซล | เว็บ (พิกเซลของ Facebook) | ดูหน้าเว็บบนเว็บไซต์ของคุณและ |
เพจ Facebook (เบต้า) | เพจ Facebook | โพสต์ แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึกหรือแชร์บนเพจ Facebook, รับหรืออ่านข้อความจากเพจ Facebook |
กลุ่มที่มาของเหตุการณ์หรือกลุ่มส่วนตัว | การผสมผสานกันแบบใดก็ตามระหว่างช่องทางข้างต้น | เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานกันระหว่างช่องทางข้างต้น |
กิจกรรมของผู้ใช้
ถ้าคุณใช้ Facebook Analytics สำหรับช่องทางเดียว กิจกรรมของผู้ใช้จะหมายถึงจำนวนครั้งที่ผู้ใช้ที่กำลังใช้งานทำเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องในช่องทางที่ระบุข้างต้นของคุณ เช่น ถ้าคุณใช้ Facebook Analytics กับเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว กิจกรรมของผู้ใช้จะหมายถึงจำนวนการดูเพจ (การเรียกใช้เมธอด logPageView
)
ถ้าคุณใช้ Facebook Analytics ครอบคลุมหลายช่องทางกิจกรรมของผู้ใช้จะหมายถึงผลรวมจำนวนครั้งที่ผู้ใช้ที่กำลังใช้งานทำเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องในช่องทางที่ระบุข้างต้นของคุณเสร็จสิ้น
เช่น ถ้าคุณใช้ Facebook Analytics สำหรับทั้งเว็บไซต์และแอพ iOS ของเว็บไซต์ดังกล่าว กิจกรรมของผู้ใช้จะหมายถึงผลรวมของจำนวนการดูเพจ (การเรียกใช้เมธอด logPageView
) และจำนวนครั้งการใช้แอพ iOS ของคุณ (การเรียกใช้เมธอด activateApp
)
ผู้ใช้ใหม่คือจำนวนของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้งานแหล่งที่มาของเหตุการณ์ของคุณ (เช่น แอพ เว็บไซต์ หรือบอทของ Messenger) หรือกลุ่มที่มาของเหตุการณ์เป็นครั้งแรก:
- หากคุณดู Facebook Analytics ในช่องทางเดียวหรือแหล่งที่มาของเหตุการณ์ จะพบว่า "กิจกรรมของผู้ใช้ใหม่" แสดงตัวเลขเป็นจำนวนของผู้ใช้ใหม่
- แต่ถ้าคุณดู Facebook Analytics โดยครอบคลุมหลายช่องทาง "กิจกรรมของผู้ใช้ใหม่" จะหมายถึงจำนวนรวมของผู้ใช้ใหม่ที่ไม่ซ้ำกันในทุกช่องทาง
เช่น ถ้าคุณใช้ Facebook Analytics กับทั้งเว็บไซต์และแอพ iOS ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ "กิจกรรมของผู้ใช้ใหม่" จะหมายถึงจำนวนรวมของผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันซึ่งได้ดูเว็บไซต์หรือใช้แอพ iOS ของคุณเป็นครั้งแรก
หมายเหตุ: ผู้ใช้บางรายอาจถูกจัดให้เป็นผู้ใช้ใหม่ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ดังนี้:
- เมื่อผู้ใช้ล้างคุกกี้ในเว็บเบราว์เซอร์ก่อนจะเยี่ยมชมเว็บไซต์ ถึงแม้ว่าอาจจะเคยดูเว็บไซต์ไปแล้วก่อนหน้านี้ก็ตาม
- เมื่อผู้ใช้มีปฏิสัมพันธ์กับแหล่งที่มาของเหตุการณ์หรือกลุ่มที่มาของเหตุการณ์อีกครั้ง หลังจากหยุดการดำเนินการไปเป็นเวลานานกว่า 2 ปี
คุณอาจสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างผู้ใช้ที่กำลังใช้งานและผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบที่กำลังใช้งาน เนื่องจากทั้งสองอย่างนี้เป็นเกณฑ์ชี้วัดที่ต่างกัน
ผู้ใช้ที่กำลังใช้งาน
ผู้ใช้จะต้องดำเนินการตามหนึ่งในเหตุการณ์ต่อไปนี้ให้เสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาที่กำหนด จึงจะถือว่าเป็นผู้ใช้ที่กำลังใช้งาน เหตุการณ์ดังกล่าวได้แก่:
- ดูเว็บไซต์ และเรียกใช้เมธอด
logPageView
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงบันทึกเหตุการณ์สำหรับเว็บไซต์ - เปิดใช้งานแอพของคุณผ่าน "เกมบน Facebook"
- ส่งข้อความหาบอท Messenger
ดูรายการเหตุการณ์ทั้งหมดที่ใช้ในการพิจารณาว่าผู้ใช้เป็นผู้ใช้ที่กำลังใช้งาน
ผู้ใช้งานที่เข้าสู่ระบบ
เราลงบันทึกผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบที่กำลังใช้งานเมื่อใดก็ตามที่มีผู้เข้าใช้งานแอพของคุณผ่าน "การเข้าสู่ระบบด้วย Facebook" คุณสามารถดูผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบที่กำลังใช้งานได้จากใน "แพลตฟอร์ม Facebook" > "การเข้าสู่ระบบ"
พาร์ทเนอร์ด้านการวัดผลบนอุปกรณ์มือถือ (MMP) คือที่บริษัทที่สามารถร่วมดำเนินงานกับคุณเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแคมเปญการโฆษณาของคุณ MMP สามารถช่วยวัดผลลัพธ์ทั่วเครือข่ายโฆษณาต่างๆ ได้ในบางส่วนอีกด้วย
ขอให้ส่งเหตุการณ์ผ่านเพียง MMP เท่านั้น หากคุณไม่ได้ส่งเหตุการณ์ผ่าน Facebook SDK การส่งเหตุการณ์ผ่านทั้งสองส่วนอาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนได้
ตัวอย่างของ MMP โปรดดูที่ Solutions Explorer
คุณสามารถใช้ตัวกรองเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายของแอพ เว็บไซต์ เพจ Facebook หรือที่มาของเหตุการณ์ที่มีการรองรับอื่นๆ ได้ใน Facebook Analytics เช่น สิ่งที่ผู้คนดำเนินการ ประเภทอุปกรณ์ที่ผู้คนใช้ แหล่งที่มาของการติดตั้งแอพ และข้อมูลทางประชากรศาสตร์อื่นๆ
คุณสามารถใช้ตัวกรองได้ในส่วนต่างๆ หลายส่วนของ Facebook Analytics และมุมมองที่ผ่านการกรองของคุณจะมีอยู่ในทุกส่วน ยกเว้นว่าคุณจะไม่เลือกตัวกรองนั้น คุณสามารถแก้ไขและลบตัวกรองได้ตามต้องการ เมื่อคุณบันทึกตัวกรองแล้ว ผู้ใดก็ตามที่มีสิทธิ์เข้าถึงเอนทิตี้การวิเคราะห์ที่ใช้ตัวกรองนั้นจะสามารถใช้ตัวกรองนั้นได้
ตัวอย่างเช่น คุณสามารถกรองข้อมูลตามผู้คนที่ Facebook อ้างอิงและใช้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นในการแจ้งกลยุทธ์ทางโซเชียลมีเดียผ่านที่มาของเหตุการณ์ (แอพ พิกเซล เพจ Facebook หรือที่มาของเหตุการณ์ที่มีการรองรับอื่นๆ) หรือกลุ่มที่มาของเหตุการณ์
คุณสามารถสร้างได้แม้กระทั่งกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับแคมเปญโฆษณาบน Facebook ของคุณจากตัวกรองบางตัว
เรียนรู้เพิ่มเติม
หากต้องการสร้างตัวกรองใหม่ใน Facebook Analytics ให้เลือกและปรับแต่งเงื่อนไขที่คุณต้องการกรอง จากนั้น คุณสามารถบันทึกตัวกรองของคุณเพื่อนำมาใช้งานภายหลังได้
คุณไม่จำเป็นต้องบันทึกตัวกรองเพื่อแชร์ตัวกรองเหล่านั้นหรือเพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง
วิธีสร้างและบันทึกตัวกรองใน Facebook Analytics บนเว็บ:
- ถัดจาก
คลิก "+ เพิ่มตัวกรอง" จากนั้นเลือก "สร้างตัวกรองใหม่" จากส่วนบน ตัวกรองจะขึ้นว่า "กรองตามผู้คนที่" หากคุณต้องการกรองตามเหตุการณ์ คุณสามารถคลิกตัวกรองแล้วเลือก "กรองข้อมูลตามเหตุการณ์ที่"
- เพิ่มเงื่อนไข โดยจะขึ้นอยู่กับเอนทิตีการวิเคราะห์ที่คุณเลือก และหากคุณกำลังกรองเหตุการณ์หรือผู้คน คุณจะเห็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องกับ:
- เหตุการณ์: การดำเนินการของผู้คนที่ทำในเอนทิตีการวิเคราะห์หรือกลุ่มที่คุณระบุและลงบันทึก (ตัวอย่างเช่น การเปิดใช้แอพและการซื้อ) คุณสามารถกรองเพื่อรวมหรือแยกเหตุการณ์ก็ได้
- ข้อมูลทางประชากรศาสตร์: คุณลักษณะต่างๆ เช่น อายุ เพศ ประเทศ หรือภาษา
- ข้อมูลอุปกรณ์: ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ผู้คนใช้ (ตัวอย่างเช่น รุ่นของอุปกรณ์ เวอร์ชั่นของเบราว์เซอร์หรือแอพ)
- คุณสมบัติผู้ใช้: รายละเอียดของผู้ใช้ที่กำหนดเอง ตัวอย่างเช่น สายการบินอาจสร้างคุณสมบัติผู้ใช้ที่เรียกว่า "สถานะผู้ที่เดินทางบ่อย" เรียนรู้วิธีการสร้างคุณสมบัติผู้ใช้
- แหล่งที่มาของการติดตั้งแอพ: วิธีที่ผู้คนพบและติดตั้งแอพของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งที่มาของการติดตั้งแอพ
- พารามิเตอร์เว็บ: ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของเว็บ เช่น โดเมนของตัวส่งต่อ ตัวอย่างเช่น บริษัทอาจใช้เพื่อดูคนที่จะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์จากโดเมนเว็บเฉพาะ (ตัวอย่างเช่น www.facebook.com)
คุณสามารถใช้ตัวปฏิบัติการที่ต่างกัน (เช่น ใช่ ไม่ใช่ มี ไม่มี และอื่นๆ) ในการปรับแต่งตัวกรองของคุณ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพารามิเตอร์ที่คุณต้องการใช้
- ปรับแต่งเงื่อนไขที่คุณเลือกแล้วเพิ่มตัวกรองอีกตามที่จำเป็น
ตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ของกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในมุมมองนี้และอัพเดตตัวกรองที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น:
หากคุณพบข้อความแสดงข้อผิดพลาดในแผนภูมิ คุณอาจต้องเลือกตัวกรองที่ละเอียดน้อยลง
- คลิก
แล้วเลือก "บันทึกตัวกรอง" จากนั้นตั้งชื่อตัวกรองและคลิก "บันทึกตัวกรอง" เพื่อยืนยัน คุณยังสามารถคลิกออกจากตัวกรองเพื่อดูตัวอย่างโดยไม่บันทึกได้
ผู้ที่สามารถบันทึกตัวกรองได้มีเพียงผู้ที่อยู่ในบางบทบาทเท่านั้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถบันทึกตัวกรองที่คุณสร้างได้ แต่คุณก็ยังสามารถแชร์ตัวกรองนั้นได้
เมื่อคุณสร้างตัวกรองแล้ว คุณจะสามารถสำรวจส่วนอื่นๆ ด้วยมุมมองของ Facebook Analytics ที่กรองใหม่แล้วได้ คุณสามารถลบตัวกรองจากมุมมองของคุณได้โดยการคลิก "X" ที่ตัวกรอง
หมายเหตุ: หากคุณเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดในแผนภูมิของคุณ คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้
คุณสามารถใช้ตัวกรองที่บันทึกไว้ใน Facebook Analytics เพื่อดูข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น หากมีข้อมูลนั้น
วิธีใช้ตัวกรองที่บันทึกไว้ใน Facebook Analytics บนเว็บ:
- คลิก "เพิ่มตัวกรอง" ใกล้กับด้านบนของหน้าจอ
- เลือกตัวกรองที่บันทึกไว้จากรายการ
เมื่อคุณใช้ตัวกรอง คุณสามารถค้นหาส่วนอื่นๆ ของ Facebook Analytics ด้วยมุมมองที่กรองใหม่แล้ว คุณสามารถลบตัวกรองได้โดยการคลิก "X" ในตัวกรอง
หมายเหตุ: หากคุณเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด เช่น "อื่นๆ ทั้งหมด" หรือ "ไม่รู้จัก" ในแผนภูมิของคุณ คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้
เรียนรู้เพิ่มเติม
คุณสามารถแชร์ตัวกรองบน Facebook Analytics ได้ทั้งก่อนและหลังจากที่คุณบันทึกตัวกรองดังกล่าว
ตัวกรองที่บันทึกไว้
หลังจากที่คุณสร้างตัวกรองและบันทึกไว้ ใครก็ตามที่เห็นเอนทิตี้การวิเคราะห์ที่คุณสร้างตัวกรองไว้ จะสามารถดูและใช้ตัวกรองที่คุณบันทึกไว้ได้
ตัวกรองที่ยังไม่ได้บันทึก
คุณอาจต้องการแชร์ตัวกรองที่ยังไม่ได้บันทึก ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการแสดงมุมมองที่กรองบางแบบแต่จะไม่ต้องการตัวกรองนั้นอีกในอนาคต หรือเพื่อขอความเห็นก่อนที่จะบันทึกตัวกรองนั้น
วิธีแชร์ตัวกรองที่ยังไม่ได้บันทึก:
- สร้างตัวกรองในส่วนที่เกี่ยวข้องกันของ Facebook Analytics ที่คุณต้องการแชร์
- คัดลอก URL ที่ได้จากเบราว์เซอร์เว็บของคุณแล้วแชร์ URL นั้น
หมายเหตุ: บุคคลที่รับมุมมองที่กรองแล้วของคุณอาจมองไม่เห็นข้อมูลบางอย่าง เช่น ข้อมูลการซื้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับบทบาทและสิทธิ์การอนุญาตของบุคคลเหล่านั้น
กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองช่วยให้คุณแสดงโฆษณาให้แก่ผู้คนที่รู้จักธุรกิจของคุณใน Facebook อยู่แล้วและเป็นผู้ใช้ Facebook
ใน Facebook Analytics คุณสามารถใช้ตัวกรองที่บันทึกหรือไม่บันทึกไว้เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ภายหลังเมื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายในตัวจัดการโฆษณาบน Facebook หรือเมื่อคุณโปรโมทโพสต์ ตราบใดที่กลุ่มเป้าหมายใหญ่มากพอและสามารถใช้งานได้ในแคมเปญของคุณ
ตัวอย่างเช่น ใน Facebook Analytics คุณสามารถสร้างตัวกรองสำหรับ 10% แรกของผู้ซื้อตามมูลค่าได้ จากนั้นคุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากตัวกรองนั้น คุณไม่จำเป็นต้องบันทึกตัวกรอง แม้ว่าคุณจะบันทึกได้หากต้องการใช้งานในภายหลัง เมื่อคุณสร้างแคมเปญถัดไป คุณสามารถเลือกที่จะแสดงโฆษณาของคุณไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองได้ ตราบใดที่ Facebook เสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้างกลุ่มเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว
หมายเหตุ: กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่เพิ่งสร้างใหม่อาจใช้เวลาสูงสุด 1 ชั่วโมงจึงจะพร้อมใช้งาน
เรียนรู้เพิ่มเติม:
- สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของลูกค้าที่ดีสุดของคุณ
- สร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เพื่อค้นหาผู้คนใหม่ๆ ที่คล้ายกับลูกค้าปัจจุบันของคุณ
- แสดงโฆษณากับผู้คนในกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้
คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากตัวกรองที่บันทึกหรือไม่ได้บันทึกไว้ใน Facebook Analytics คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณได้เมื่อคุณสร้างแคมเปญโฆษณา
วิธีสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองใน Facebook Analytics:
- สร้างตัวกรองที่คุณต้องการใช้ หรือเลือกตัวกรองที่มีบันทึกไว้อยู่แล้ว คุณสามารถบันทึกตัวกรองใหม่ๆ ที่คุณสร้างไว้ได้
- คลิก
แล้วเลือก "สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง"
- ตั้งชื่อกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ
- ระบุตัวเลือกต่อไปนี้:
- บัญชีโฆษณา: บัญชีตัวจัดการโฆษณาบน Facebook ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ
- ตัวกรอง: เลือก "ใช้ตัวกรองปัจจุบัน" หรือตัวกรองที่บันทึกไว้ที่คุณจะใช้เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ
- ในช่วง: เลือกช่วงเวลาสำหรับผู้คนที่มีคุณสมบัติที่จะอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ
- คลิก "สร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง" หากคุณไม่สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองโดยใช้ตัวกรองปัจจุบันที่คุณเลือกไว้ได้ คุณอาจต้องอัพเดตตัวกรองของคุณ แต่คุณอาจไม่สามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากตัวเลือกตัวกรองทั้งหมดได้
เราจะเริ่มสร้างกลุ่มเป้าหมายของคุณ คลิก "ดูกลุ่มเป้าหมาย" เพื่อดู แก้ไข หรือลบกลุ่มเป้าหมายนี้ในตัวจัดการกลุ่มเป้าหมาย
หมายเหตุ: กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองที่เพิ่งสร้างใหม่อาจใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงจึงจะพร้อมใช้งาน กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองตามเหตุการณ์คือประเภทหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองสำหรับการมีส่วนร่วม ซึ่งหมายความว่าขนาดของกลุ่มเป้าหมายนี้อาจเปลี่ยนแปลงหากการมีส่วนร่วมของผู้คนเปลี่ยนไป
กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน คือกลุ่มเป้าหมายที่ Facebook สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนที่คล้ายกับกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองของคุณ
คุณสามารถใช้กลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันเพื่อเข้าถึงผู้คนใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะสนใจธุรกิจของคุณ เนื่องจากพวกเขามีลักษณะคล้ายกับลูกค้าปัจจุบันของคุณ
ตัวอย่าง
เมื่อคุณสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากกลุ่มผู้ใช้ที่ติดตั้งแอพของคุณ คุณจะสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกัน เพื่อรวมผู้ที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มผู้ใช้ดังกล่าวหรือเคยมีคอนเวอร์ชั่นไว้ในกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญโฆษณาของคุณได้
คุณสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันจากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง เพื่อเข้าถึงผู้คนที่คล้ายกับลูกค้าในปัจจุบันของคุณด้วยแคมเปญโฆษณา
เมื่อคุณสร้างกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเองจากตัวกรองใน Facebook Analytics แล้ว ให้อ่านวิธีสร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันสำหรับขั้นตอนต่อไป
หมายเหตุ: กลุ่มเป้าหมายที่เพิ่งสร้างใหม่อาจใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมงจึงจะพร้อมใช้งาน